ลิเวอร์พูล – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม 2559 เวลา 3.05 น.
ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
ฟุตบอล ยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ดันเป็นการโคจรมาเจอกันระหว่าง ลิเวอร์พูล กับคู่ปรับอันดับหนึ่งตลอดกาลอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นแดงเดือดในเวทียุโรปไปซะอย่างนั้น โดยนัดนี้จะเตะกันใน แอนฟิลด์ บ้านของ หงส์แดง ก่อนที่จะสลับไปเตะใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในวันพฤหัสบดีหน้า
สถิติที่เคยพบกัน 5 นัดหลังสุด
ลิเวอร์พูล 0-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
ลิเวอร์พูล 1-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-3 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
สถิติ 5 นัดหลังสุดของลิเวอร์พูล
คริสตัล พาเลซ 1-2 ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล 3-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ลิเวอร์พูล 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ลิเวอร์พูล 1-0 เอาส์บวร์ก
เอาส์บวร์ก 0-0 ลิเวอร์พูล
สถิติ 5 นัดหลังสุดของแมนฯ ยูไนเต็ด
เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 วัตฟอร์ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-2 อาร์เซนอล
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5-1 มิดทิลแลนด์
ชรูว์สบิวรี่ ทาวด์ 0-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ความพร้อมของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : เจอร์เก้น คล็อปป์ บิ๊กบอสชาวเยอรมนีจะยังไม่สามารถใช้งาน มาร์ติน สเคอร์เทล ปราการหลังหัวเหม่งได้เพราะยังไม่ฟิตพอ ส่วนตัวเจ็บหน้าเดิมๆอย่าง แดนนี่ อิงส์, โจ อัลเลน, โจ โกเมส นั้นลงเล่นไม่ได้แน่ ๆ อยู่แล้ว ผู้รักษาประตูยังเป็น ซิมง มิโญเล่ต์เช่นเคย โดยแผงหลัง นาธาเนียล ไคลน์ แบ็คขวาทีมชาติอังกฤษจะได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งหลังจากได้พักมาในเกมลีกสุดสัปดาห์ทำให้ จอห์น ฟลานาแกน น่าจะต้องโยกมาเล่นในฝั่งซ้ายแทน อัลแบร์โต้ โมเรโน่ ที่น่าจะโดนดร็อปในเกมนี้ โดยคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟพวกเขาจะใช้ มามาดู ซาโก้ จับคู่กับ เดยัน ลอฟเรน กองกลางเรียกได้ว่าจะไม่มีคนนี้ไม่ได้เลยนั้นก็คือ เอ็มเร่ ชาน โดยมี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ เจมส์ มิลเนอร์ คอมประคองเก๋าให้รุ่นน้องชาวอินทรีเหล็ก ส่วนเกมรุกจะยังคงเป็นสามประสานอย่าง โรเบอร์โต้ เฟอร์มิโน, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือจอมปรัชญาเริ่มจะมีความดีขึ้นมาบ้างเพราะทั้ง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ มารูยาน เฟลไลนี่ ต่างกลับมาลงซ้อมกับทีมได้แล้วแต่ยังไม่พร้อมสำหรับนัดนี้ ส่วนตัวที่ติดโทษแบนก็จะมี เจสซี่ ลินการ์ด ปีกชาวอังกฤษ ส่วนผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามก็จะได้แก่ ดาบิด เด เคอา จะรับหน้าที่ผู้รักษาประตู ส่วนคู่กองหลังตัวกลางบิ๊กบอสร่างท้วมก็ยังคงจะใช้ คริส สมอลลิ่ง ลงเล่นกับ เดลี่ย์ บลินด์ ลูกรักบ้านเดียวกันแม้ตัวนักเตะจะโดนวิจารณ์อย่างหนักก็ตามที ฟูลแบ็คสองข้างจะเป็นหน้าที่ของ มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน กับ มาร์กอส โรโฮ ส่วนแดนกลางเกมนี้ มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน จะได้กลับมาเป็นตัวจริงแทน ไมเคิ่ล คาร์ริค โดยมี อันเดร์ เอร์เรร่า เป็นคู่ขาในแดนกลาง ฆวน มาต้า, เมมฟิส เดปาย และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล จะเป็นสามตัวรุกคอยสนับสนุนเจ้าหนู มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่จะยืนเป็กองหน้าตัวเป้าให้ทีมนั่นเอง
ผู้เล่น 11 ตัวจริงที่จะลงสนาม
ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเล่ต์ – นาธาเนียล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, มามาดู ซาโก้, จอห์น ฟลานาแกน – เอ็มเร่ ชาน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์ – โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา – มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน, คริส สมอลลิ่ง, ดาลี่ย์ บลินด์, มาร์กอส โรโฮ – มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน, อันเดร์ เอร์เรร่า – เมมฟิส เดปาย, ฆวน มาต้า, อองโตนี มาร์กซิยาล – มาร์คัส แรชฟอร์ด
ทรรศนะ
ตั้งแต่ ปีศาจแดง ตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของ หลุยส์ ฟาน กัล พวกเขาไม่เคยแพ้ ลิเวอร์พูล เลยแถมชนะมาได้ทุกครั้ง แต่ยังไงก็ตามนัดนี้เป็นนัดใหม่แถมเป็นในบอลถ้วยอีกอะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ ถ้าย้อนกลับไปได้ไม่นานในนัดล่าสุดก็เป็นลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ นี่แหละที่โชว์ฟอร์มดีกว่าสวยหรูกว่าแต่ดันจบสกอร์ไม่ได้ทำให้ต้องเป็นฝ่ายแพ้ไป นัดนี้เชื่อว่า ลิเวอร์พูล คงเป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่ตามสไตล์คล็อปป์ ส่วนสไตล์ฟานกัลหน่ะเหรอขอแค่ไม่แพ้ก็พอแล้วมั้ง
โอกาสชนะ
ลิเวอร์พูล โอกาสชนะ 35%
โอกาส เสมอ 35%
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โอกาสชนะ 30%